มีความจริงเกี่ยวกับรหัส Da Vinci หรือไม่?

มีความจริงเกี่ยวกับรหัส Da Vinci หรือไม่? ตอบ



มีความจริงกับหนังสือขายดีของแดนบราวน์The .หรือไม่ รหัสดาวินชี ? สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า รหัสดาวินชี เป็นเรื่องสมมติโดยสิ้นเชิง เท่าที่ผู้เขียน แดน บราวน์อยากให้เราเชื่อ รหัสดาวินชี ไม่มีพื้นฐานที่มั่นคงทางประวัติศาสตร์ พระคัมภีร์ หรือเทววิทยา รหัสดาวินชี โดยพื้นฐานแล้วเป็นความพยายามที่จะ 'ทำให้เป็นมนุษย์' พระเยซูคริสต์โดยการประดิษฐ์เรื่องราวว่าตัวตนที่แท้จริงของพระองค์ถูกบิดเบือนและซ่อนไว้เกือบสองพันปีอย่างไร ในหนังสือ พระเยซูแต่งงานกับมารีย์ชาวมักดาลาและมีลูก มารีย์ มักดาลีนและลูกหลานของพระเยซูเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์ที่นำพระโลหิตของพระคริสต์ รหัสดาวินชี ระบุว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ถูกปกปิดโดยคริสตจักรยุคแรกเพื่อปกป้องแนวคิดเรื่องความเป็นพระเจ้าของพระเยซู หนังสือคริสเตียนทั้งหมดที่เล่าถึงความสัมพันธ์ของพระเยซูกับมารีย์ มักดาลาถูกทำลาย และหลักฐานใดๆ ของความสัมพันธ์ดังกล่าวก็ถูกปกปิดไว้



อีกครั้ง, รหัสดาวินชี เป็นนิยาย มันไม่มีพื้นฐานในความเป็นจริง มันเป็นหนังสือที่เขียนได้ดีและสนุกสนาน แต่นั่นคือทั้งหมดที่มีให้ แดน บราวน์เชื่อว่าแนวคิดเหล่านี้เกี่ยวกับพระเยซูเป็นความจริง เนื่องจากไม่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ พระคัมภีร์ หรือเทววิทยาสำหรับความเชื่อของเขา แดน บราวน์จึงนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ในเรื่องราวสมมติ แต่ความจริงก็คือพระเยซูไม่ได้แต่งงานกับมารีย์ชาวมักดาลาหรือใครก็ตาม พระเยซูไม่มีบุตร ใช่ คริสตจักรยุคแรกพยายามทำลายข่าวประเสริฐมากมายเกี่ยวกับพระเยซู แต่พวกเขาทำเช่นนั้นเพราะพวกเขาเกือบทุกคนยอมรับว่าเป็นคนนอกรีต ไม่ได้ปกปิดอะไรเลย แม้แต่พระกิตติคุณเหล่านี้ก็ยังบอกเป็นนัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างพระเยซูกับมารีย์ชาวมักดาลา คริสตจักรไม่ได้ปกปิดความจริงเกี่ยวกับพระเยซูที่แต่งงานกับมารีย์ชาวมักดาลา คริสตจักรได้ปกป้องความจริงว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้าในเนื้อหนัง (ยอห์น 1:1, 14)





ดิ รหัสดาวินชี แท้จริงแล้วเป็นการจู่โจมพระกายของพระเยซูคริสต์ ผู้คนไม่ต้องการที่จะเชื่อว่าพระเยซูคือพระเจ้าหรือพระองค์คือพระผู้ช่วยให้รอด ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างเรื่องเท็จเกี่ยวกับพระองค์เพื่อสร้างพระเยซูจอมปลอมที่พวกเขาสามารถเชื่อได้ นั่นคือสิ่งที่ Da Vinci Code กล่าวถึง—นำเสนอ มุมมองที่ผิดๆ เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์จริงๆ แล้วอธิบายว่าเหตุใดความจริงนี้จึงถูก 'ซ่อน' มาเกือบ 2000 ปีแล้ว





Top